
ดอกทองกวาว หรือดอกจาน ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยและประจำหลายจังหวัด
แล้วยังเป็น ดอกไม้ประจำจังหวัด อีกหลายจังหวัดมากมาย ได้แก่ เชียงใหม่, ลำพูน, อำนาจเจริญ, อุดรธานี
ทองธรรมชาติ ทองพรหมชาติ ทองต้น (ภาคกลาง), ดอกจาน (อิสาน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของดอกทองกวาว
- ดอกทองกวาวมีกลีบดอก 5 กลีบ เชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย กลีบดอกมีสีเหลืองถึงแดงแสด กลีบดอกด้านบนโค้งงอเล็กน้อย กลีบดอกด้านล่างเป็นรูปเรือ คล้ายกับเรือใบที่กำลังแล่นไปในสายลม ดอกทองกวาวจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความสดใส ความมีชีวิตชีวา และสายลมแห่งฤดูร้อน
- ดอกทองกวาวมีเกสรตัวผู้ 10 อัน แยกอิสระ 1 อัน ส่วนอีก 9 อัน โคนก้านอับเรณูเชื่อมติดกันเป็นหลอด คล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว เกสรตัวเมียลักษณะโค้งเข้า ยอดเกสรเป็นตุ่ม คล้ายกับดอกบัวตู
- ดอกทองกวาวจะออกดอกในช่วงหน้าแล้ง ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ดอกทองกวาวจะออกดอกเป็นช่อตามกิ่งก้านและที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาวประมาณ 5-15 เซนติเมตร
ถิ่นกำเนิดของ ดอกทองกวาว: ดินแดนแห่งแสงทอง

อย่างที่เราเอ่ยไปในช่วงต้นแล้วว่า ดอกทองกวาวเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน อำนาจเจริญ และอุดรธานี หลายคนคงเคยเห็นดอกทองกวาวบานสะพรั่งเต็มต้น เหลืองอร่ามไปทั่วท้องทุ่ง งดงามราวกับแสงทองสาดส่องลงมา
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ถิ่นกำเนิดของดอกทองกวาวนั้นอยู่ไกลโพ้นจากประเทศไทยของเรา ถิ่นกำเนิดของดอกทองกวาวอยู่ที่เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมพื้นที่ของประเทศปากีสถาน อินเดีย บังกลาเทศ เนปาล ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และทางตะวันตกของอินโดนีเซีย
ปลูกดอกทองกวาวอย่างไรให้สวยงาม

ดอกทองกวาวเป็นดอกไม้ที่งดงามและได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย หลายคนอาจคิดว่าการปลูกดอกทองกวาวเป็นเรื่องยาก แต่ความจริงแล้ว ดอกทองกวาวเป็นไม้ที่ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก เพียงแต่ต้องใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่ง วิธีปลูกดอกทองกวาว มีดังนี้
- การเลือกต้นกล้า ก่อนอื่น เราต้องเลือกต้นกล้าที่แข็งแรงและสมบูรณ์ โดยสังเกตจากลำต้นที่ตรง ไม่บิดงอ ใบมีสีเขียวสด ไม่มีรอยโรคหรือแมลงรบกวน
- การเตรียมดิน ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกดอกทองกวาวคือดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี เราสามารถผสมดินร่วนกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตราส่วน 1:1 เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้กับดิน
- การปลูก การปลูกดอกทองกวาวทำได้โดยการนำต้นกล้าลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ กลบดินให้มิดต้นแล้วรดน้ำให้ชุ่ม
- การดูแลรักษา ดอกทองกวาวเป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด ดังนั้นควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน
- การให้น้ำ ดอกทองกวาวต้องการน้ำปานกลาง ควรให้น้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ในช่วงฤดูร้อนอาจต้องให้น้ำบ่อยขึ้น
- การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1-2 กิโลกรัม
- การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบ ๆ ต้นทองกวาวเป็นประจำ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นทองกวาว
ดอกทองกวาว ประโยชน์ที่มากกว่าแค่ความสวยงาม

ดอกทองกวาวเป็นดอกไม้สีเหลืองสดใสที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าว นอกจากความสวยงามแล้ว ดอกทองกวาวยังมีประโยชน์มากมาย ที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
ประโยชน์ดอกทองกวาว ในด้านสมุนไพร ดอกทองกวาวมี สรรพคุณทางยา มากมาย ดังนี้
- แก้พิษไข้ ถอนพิษร้อน
- ขับปัสสาวะ
- แก้ตาแดง ตาแฉะ
- แก้ปวดฟัน
- แก้ท้องเสีย
- แก้ริดสีดวงทวาร
- แก้ตะคริว
- แก้ฝี
ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ดอกทองกวาวยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย ดังนี้
- ใช้เป็นสีย้อมผ้า
- ใช้เป็นอาหารสัตว์
- ใช้เป็นเชื้อเพลิง
- ใช้เป็นไม้ประดับ
อ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับดอกไม้ได้ที่: https://floramalee.com/
ขอบคุณที่มาเพิ่มเติม: https://www.panmai.com/PvFlower/fl_15.shtml