Header
carnation history

ดอกคาร์เนชั่น ดอกไม้สุดโปรดของหลาย ๆ คน มีที่มาอย่างไร

ดอกคาร์เนชั่น (Carnation) หรือที่รู้จักกันในชื่อ กานพลูสีชมพู เป็นดอกไม้ที่มีความสวยงามและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดอกคาร์เนชั่นมีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และมีการแพร่กระจายไปทั่วโลกในปัจจุบัน ดอกคาร์เนชั่นมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dianthus caryophyllus ซึ่งมาจากคำว่า Dios แปลว่า เทพเจ้า และ Anthos แปลว่า ดอกไม้ ดอกคาร์เนชั่นมีความหมายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความชื่นชม และความยินดี

ดอกคาร์เนชั่น

ประวัติ ดอกคาร์เนชั่น ตำนานที่ยาวนานมากว่า 2,000 ปี

ประวัติดอกคาร์เนชั่น (Carnation) มีประวัติมายาวนานกว่า 2,000 ปี มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เดิมทีดอกคาร์เนชั่นมีเพียงสีชมพูอ่อนและสีพีชเป็นหลัก ต่อมานักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษได้ทำการผสมพันธุ์จนได้ดอกคาร์เนชั่นที่มีสีสันหลากหลายในปัจจุบัน 

ชาวกรีกและโรมันโบราณเชื่อว่าดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ มักนำมาใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและพิธีราชาภิเษก ชาวกรีกเชื่อว่าดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่อุทิศให้กับเทพีอโฟรไดที เทพีแห่งความรักและความงาม ชาวโรมันเชื่อว่าดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่อุทิศให้กับเทพเจ้ามาร์ส เทพเจ้าแห่งสงคราม 

ในศาสนาคริสต์ ดอกคาร์เนชั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความบริสุทธิ์ มักนำมาใช้ประดับในโบสถ์และประดับในงานศพ ชาวคริสต์เชื่อว่าดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่เติบโตขึ้นจากหยดน้ำตาของพระแม่มารีย์ เมื่อครั้งที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน 

ดอกคาร์เนชั่นเริ่มได้รับความนิยมในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 16 และแพร่กระจายไปทั่วโลกในช่วงศตวรตุรรษที่ 19 ปัจจุบันดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มักนำมาใช้ประดับในงานต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด งานเลี้ยงสังสรรค์ และงานเฉลิมฉลองต่างๆ 

ดอกคาร์เนชั่น

ดอกคาร์เนชั่นมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

ประเภทของดอกคาร์เนชั่น สามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของดอก ได้แก่ 

1. ดอกคาร์เนชั่นดอกเดี่ยว (Standard Type)

ดอกเดี่ยวเป็นดอกคาร์เนชั่นที่มีดอกขนาดใหญ่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-8 เซนติเมตร มีเพียงดอกเดียวต่อกิ่ง ดอกมีลักษณะกลม กลีบดอกเรียงซ้อนกันแน่น ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกเดี่ยวนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ นิยมตัดดอกมาจัดช่อดอกไม้ หรือปลูกเป็นไม้กระถาง 

ลักษณะของดอกเดี่ยว 

  • ดอกขนาดใหญ่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-8 เซนติเมตร 
  • มีเพียงดอกเดียวต่อกิ่ง 
  • ดอกมีลักษณะกลม กลีบดอกเรียงซ้อนกันแน่น 
  • ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

2. ดอกคาร์เนชั่นดอกช่อ (Spray Type)

ดอกช่อเป็นดอกคาร์เนชั่นที่มีดอกขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีดอกหลายดอกต่อกิ่ง ดอกมีลักษณะเป็นช่อ กลีบดอกเรียงซ้อนกันแน่น ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกช่อนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ นิยมตัดดอกมาจัดช่อดอกไม้ หรือปลูกเป็นไม้กระถาง 

ลักษณะของดอกช่อ 

  • ดอกขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-4 เซนติเมตร 
  • มีดอกหลายดอกต่อกิ่ง 
  • ดอกมีลักษณะเป็นช่อ กลีบดอกเรียงซ้อนกันแน่น 
  • ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ 
ความแตกต่างของดอกคาร์เนชั่น

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างดอกเดี่ยว และดอกช่อของดอกคาร์เนชั่น ได้แก่

  • ดอกเดี่ยวจะมีดอกขนาดใหญ่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-8 เซนติเมตร ในขณะที่ดอกช่อจะมีดอกขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-4 เซนติเมตร 
  • ดอกเดี่ยวจะมีดอกเพียงดอกเดียวต่อกิ่ง ในขณะที่ดอกช่อจะมีดอกหลายดอกต่อกิ่ง 
  • ดอกเดี่ยวมักถูกนำมาจัดช่อดอกไม้ ในขณะที่ดอกช่อมักถูกนำมาจัดเป็นแจกันดอกไม้ 

ความหมายของดอกคาร์เนชั่นแต่ละสี

  • ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง ความรัก ความปรารถนา 
  • ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู หมายถึง ความชื่นชม ความรัก ความอ่อนโยน 
  • ดอกคาร์เนชั่นสีเหลือง หมายถึง มิตรภาพ ความปรองดอง 
  • ดอกคาร์เนชั่นสีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ความหวัง 
  • ดอกคาร์เนชั่นสีม่วง หมายถึง ความเศร้าโศก 
  • ดอกคาร์เนชั่นสีลาย หมายถึง ความเป็นเพื่อน 
  • ดอกคาร์เนชั่นที่มีกลีบดอกแบบขลิบขอบสีต่างๆ หมายถึง มักหมายถึงการแสดงความเสียใจหรือการปฏิเสธ